รถนำเข้า ทำไมแพง? พาส่อง ภาษี นําเข้า รถยนต์ ไขคำตอบแพงเพราะอะไร

รถนำเข้า ทำไมแพง? พาส่อง ภาษี นําเข้า รถยนต์ ไขคำตอบแพงเพราะอะไร
สาเหตุส่วนหนึ่งที่รถนำเข้ามีราคาแพงเป็นหลักล้านถึงสิบล้านก็เพราะว่าต้องเสียภาษีนำเข้าค่อนข้างสูงถึงร้อยละ 300 นั่นเอง โดยกรมศุลกากร มีหลักเกณฑ์การประเมินภาษีของรถนำเข้าสำเร็จรูปจากต่างประเทศตามสเปกของรถแต่ละคันไว้ชัดเจน ซึ่งมีวิธีการคำนวณอย่างละเอียด 

การคิดภาษีรถยนต์นำเข้านั้จะคิดจากราคา CIF หรือ Cost+Insurance+Freight ซึ่งก็คือ ราคาขายของรถบวกค่าอากรบวกค่าประกันภัยบวกค่าขนส่งจากต่างประเทศ

ภาษีที่ต้องจ่ายประกอบไปด้วย
1.อากรขาเข้า ภาษีแรกที่ผู้นำเข้าต้องจ่าย ณ ท่าเรือก่อนนำรถออกจากท่าเรือเข้ามาในประเทศ ในอัตรา 80% ของราคา CIF ซึ่งเท่ากับ 80 บาท
2.ภาษีสรรพสามิต ซึ่งกรมศุลกากรจะเก็บภาษีนี้พร้อมกับอากรขาเข้า ภาษีสรรพสามิตนี้จะถูกเก็บในอัตราที่ต่างกันตั้งแต่ 30-50% ขึ้นอยู่กับความจุกระบอกสูบ หรือขนาดเครื่องยนต์ เช่น รถยนต์ขนาดไม่เกิน 2,000 ซีซี ที่ถูกจัดเก็บในอัตรา 30% ของราคา CIF รวมกับภาษีอากรขาเข้า โดยใช้สูตรการคำนวณการจัดเก็บ ที่เรียกว่า ฝังใน คือ = ((100+80)x30%) 1 – (1.1×30%)
3.ภาษีมหาดไทย ชึ่งภาษีที่เก็บได้นี้จะถูกนำไปบริหารประเทศโดยกระทรวงมหาดไทย คิดที่อัตรา 10% ของภาษีสรรพสามิต
4.ภาษีมูลค่าเพิ่มก็คือ (VAT) 7% ของราคา CIF+อากรขาเข้า+ภาษีสรรพสามิต+ภาษีมหาดไทย

ตัวอย่างในการคำนวณภาษีรถนำเข้า เช่น ถ้าราคารถยนต์อยู่ที่ 400,000 บาท
  –ราคาที่รวม CIF = 450,000 (ราคา + ค่าประกันภัย + ค่าขนส่ง)
  -ภาษีอากรขาเข้า 80% = 360,000
  -ภาษีสรรพสามิต = ((450,000 + 360,000 x 50%) )/(1 – (1.1×50%) ) = 900,000
  -ภาษีมหาดไทย 10% = 1,800,000 บาท
  -ภาษีมูลค่าเพิ่ม VAT 7% =126,000 ดังนั้นราคารถ = 1,926,000 บาท

จากราคารถยนต์+ค่าขนส่ง 450,000 บาท พอบวกภาษีนำเข้ารถยนต์ทั้งหมด ราคาขยับไปถึง 1,926,000 บาท ที่นี้ก็รู้เหตุผลกันแล้วใช่ไหมว่าทำไมรถนำเข้าถึงได้แพง ภาษีนำเข้ารถยนต์ คือ สิ่งที่ต้องจ่ายเพื่อแลกกับความเท่ หรูหรา มีไสตล์นั้นเอง